ขอหวยลำพูน สถานที่ขอหวยของจังหวัดที่คอหวยไม่ควรพลาดจะมีใครบ้างนั้นติดตามได้เลยอันดับที่1 เจ้าแม่ตะเคียนยักษ์ 2 ต้น ที่วัดดอยติ
ขอหวยลำพูน วัดดอยติ ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ราษฎรพากันหลั่งไหลขึ้นไปขอพรจากรูปเสมือนคุณครูบาศรีวิชัย นักบุญที่ล้านนาไทย เพราะมีฝูงผึ้งมาสร้างรังใต้คางแล้วก็เรียกตัวไม่น้อยเลยทีเดียว โดยส่วนมากขึ้นไปทำบุญทำทานหวังว่าจะมีโชคลาภถูกเบอร์ เคยมีคนถูกล็อตเตอรี่ใหญ่เป็นรางวัลที่ 2 มาแล้ว
ประชาชนรู้ข่าวสารต่างทยอยกันขึ้นไปยังวัดภูเขาตำหนิโดยตลอดดังนี้ใกล้กับวันลอตเตอรี่ออกแล้ว ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็เดินทางมาจากชนบท อาทิเช่น จังหวัดพะเยา ช่วงเวลาเดียวกันรอบๆวัดยังมีต้นเจ้าแม่ตะเคียนยักษ์ที่ดินวัดเชิญเอามาเก็บไว้ที่วัดถึง 2 ต้น ซึ่งมีขนาดใหญ่รวมทั้งยาวไม่ต่ำยิ่งกว่า 6 เมตร ข้างในรอบๆที่ต้นเจ้าแม่ตะเคียนยักษ์อยู่มีประชาชนนำชุดไทยนานาประการสีมามอบให้เยอะไปหมด
ประชาชนที่มาส่วนมากจะเข้าไปกราบเจ้าแม่ตะเคียนยักษ์ ต่อไปก็ไม่ลืมเลือนที่จะขอเลขเด็ดด้วยการนำเอาแป้งไปลูบคลำตามลำต้นเจ้าแม่ บางบุคคลก็ส่องมองเห็นจำนวน เรื่องของเลขสลากกินแบ่งที่เขาพากันมาส่องก็เป็นความเชื่อรวมทั้งโชคลาภของคนไหนของมัน แต่ว่าก็อย่างมงาย ด้วยเหตุว่าเรื่องอย่างนี้มันเกิดเรื่องความศรัทธาของบุคคลก็ควรใช้วิจารณญาณ ส่วนการพัฒนาวัดช่วงนี้ก็เริ่มมีการปรับปรุงให้มองเห็นทิวทัศน์ทิวภาพของเมืองจังหวัดลำพูน ทางพระก็ช่วยเหลือกันนำรถยนต์มาปรับดินรวมทั้งสร้างแลนด์มาร์กไว้เผื่อชาวพุทธที่แวะมาทำบุญสุนทานจะได้มีจุดสำหรับชมวิวงามๆเย็นสบายถ่ายรูปไว้ โดยยิ่งไปกว่านั้นหน้าหนาวที่จะถึงนี้ แห่ขอหวย วันนี้
ขอหวยลำพูน สถานที่ขอหวยของจังหวัดที่คอหวยไม่ควรพลาดจะมีใครบ้างนั้นติดตามได้เลยอันดับที่2 วัดจามเทวี
โดยประวัติคร่าวๆ เมื่อปี พุทธศักราช 1298 พระนางจามเทวีนำช่างละโว้ (ตอนนี้เป็น จังหวัดลพบุรี) ไปสร้างพระเจดีย์ทองจังโกฎ เป็นพระเจดีย์สี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศประเทศอินเดีย ทุกๆด้านมีพุทธรูปยืนปางประทานพรศิลปกรรมของจังหวัดลพบุรีมีพุทธรูปยืนอยู่ในซุ้มพระทั้งยังสี่ด้าน ด้านละ 15 องค์ รวม 60 องค์ ข้างในใส่อัฐของพระนางจามเทวี
ด้านในพระเจดีย์ใส่อัฐิของพระนางจามเทวี เดิมมียอดพระเจดีย์ห่อด้วยทอง ปี พุทธศักราช 1184 มีพระฤๅษีไปพบเด็กทารกหญิง ถูกพญานกคาบมาทิ้งเอาไว้บนใบบัวหลวง ก็เลยอุปการะแล้วก็สอนสรรพวิทยาการต่างๆให้ เมื่อพระนางจามเทวี เติบโตได้ 13 ปี พระฤๅษีก็เลยต่อนาวายนต์พร้อมฝูงลิงเป็นบริวารลอยล่องไปตามลำธาร
ถึงยังท่าน้ำวัดชัยมงคล เมื่อพระเจ้ากรุงละโว้และก็พระมเหสีพบเจอ ก็เลยได้นำธิดาน้อยนั้นไปสู่พระราชสำนัก และก็ตั้งให้เป็นลูกหญิง นามว่า “จามเทวีธิดา” และก็ให้เรียนรู้ศิลปวิทยาการตำราพิชัยสงคราม รวมทั้งดนตรีทุกๆอย่าง พุทธศักราช 1198 พระนางจามเทวีมีพระชนมายุ 14 ปี ได้เข้าพิธีการอภิเษกสมรสกับพระราชโอรสราม ที่นครรามบุรี
พุทธศักราช 1204 นามจามเทวีมีพระชนมายุ 20 ปี เป็นกษัตรีย์สกุลจามเทวีที่นครหริภุญชัย โดยพระมเหสีได้เชิญพระแก้วขาว (พระเสตังคมณี) จากเมืองละโว้ เมื่อปี 700 ขึ้นมา เพื่อติดตั้งเป็นพระประจำเมือง (ปัจจุบันนี้ พระเสตังคมณีองค์นี้ยังตั้งอยู่ที่วัดเชียงมั่น จังหวัดเชียงใหม่)
พระนางจามเทวี มีพระลูกชาย 2 องค์ องค์พี่มีนามว่ามหาตำแหน่ง (มหันตขั้น) องค์น้องมีนามว่าอินทวร (อนันตขั้น) โดยพระเจ้ามหาขั้น ได้ขึ้นรับประทานครองบ้านครองเมืองหริภุญชัยนคร แทนแม่ ส่วนพระองค์น้องพระเจ้าอินทวรไปครองบ้านครองเมืองโง่งค์นคร ที่มหาพรหมฤๅษี แล้วก็สุพระพรหมฤๅษีด้วยกันทำขึ้นใหม่ให้พระองค์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนพระนางจามเทวีมีพระชนมายุได้ 60 ปี ได้สละราชบัลลังก์ทุกสิ่งทุกอย่าง ให้พระลูกชายทั้งคู่ โดยพระนางบวชชีบำเพ็ญพรตอยู่ที่วัดจามเทวีที่นี้
พุทธศักราช 1276 พระนางจามเทวีได้ประพฤติตามธรรมอยู่ในวัดที่นี้ พระชนมพรรษาครบ 92 ปี พระนางก็เลยได้สวรรคต ซึ่งทางพระมหันตตำแหน่ง และก็พระอนันตขั้น ก็ได้จัดเผาศพข้างในวัดดังที่กล่าวถึงแล้วอย่างสมพระเกียรติ รวมทั้งได้สร้างเจดีย์สี่เหลี่ยมใส่พระอัฐิของพระนางไว้ในที่นี้ โดยให้ชื่อเจดีย์ว่า กาญจน์จังโกฎเจดีย์ ที่ได้เป็นต้นแบบของเจดีย์ในแถบล้านนา ถัดมานานมากอายุนับพันปี “ทองจังโกฎเจดีย์” พังผุพัง ยอดพระเจดีย์ได้หัก และก็หายไป เปลี่ยนเป็นวัดร้าง รวมทั้งราษฎรได้เรียกวัดนี้ว่า “วัดกู่กุด” (กู่กุด เป็นภาษาล้านนา แสดงว่า เจดีย์ยอดด้วน)
พุทธศักราช 2469 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จเลิศวัดที่นี้ ก็เลยขอความกรุณาปรานีให้เปลี่ยนแปลงชื่อจาก วัดกู่กุด เป็น วัดจามเทวี อย่างเช่นเดิม พุทธศักราช 2479 เจ้าจักรคำแผ่กว้างศักดา ผู้ครองนครจังหวัดลำพูนได้ไปนิมนต์ท่านอาจารย์บาศรีวิชัย ช่วยซ่อมวัดจามเทวีอีกทีหนึ่ง นับจากนั้นมาวัดจามเทวี ก็รุ่งโรจน์ ส่วนลักษณะของสถาปัตยกรรมที่ปรากฏให้มองเห็นอย่างเห็นได้ชัดบนทองจังโกฎเจดีย์ ได้แปลงเป็นโบราณสถาน ของเก่าที่ประประมาณมูลค่ามิได้
พุทธรูปปางต่างๆในแต่ละชั้นของเจดีย์บ่งบอกถึงถึงความเคารพนับถือ แล้วก็การเข้าถึงศาสนาพุทธของพระนางจามเทวี โดยกาญจน์จังโกฎเจดีย์เป็นต้นแบบของเจดีย์ทั้งหลายแหล่ ซึ่งบางคราวเรียกเจดีย์ทรงนี้ว่า เจดีย์ทรงขัตติยะผู้หญิง
ช่วงวันที่ 2 ต.ค. พุทธศักราช 2525 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ประเทศไทยองค์รัชทายาท ได้เสด็จมาเปิดอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ซึ่งตั้งอยู่รอบๆสวนสาธารณะหนองดอก ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของตลาดหนองดอก สร้างเป็นที่ระลึกนึกถึงแก่พระนางจามเทวี เป็นปฐมกกษัตริย์ที่หริภุญชัย เป็นผู้รอบรู้ที่มีศีลธรรม มีความรู้ความสามารถ อาจหาญ ได้นำพุทธศาสนาศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่จนถึงมีความเจริญรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบันนี้ วิธีขอหวย
ขอหวยลำพูนสถานที่ขอหวยของจังหวัดที่คอหวยไม่ควรพลาดจะมีใครบ้างนั้นติดตามได้เลยอันดับที่3 วัดพระพุทธบาทตากผ้า
วัดพระพุทธบาทตากผ้า เดิมเป็นวัดราษฎร์ ได้รับพระราชทานวิสุงติดอยู่มสีมาตอนวันที่ ๒๕ ต.ค. พุทธศักราช ๒๕๑๖ และก็ได้รับการเลื่อนฐานะเป็นวัดหลวงชั้นตรี ประเภทสามัญ ช่วงวันที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑ ตั้งอยู่ในพื้นที่ราวๆ ๑๗๕ ไร่ ซึ่งเป็นเนินเตี้ยๆอยู่ใกล้ภูเขา (เขา) ๒ ลูกเป็น ภูเขาช้างและก็ภูเขาเครือ อยู่ห่างจากเมืองจังหวัดลำพูนโดยประมาณ ๑๙ กม. เป็นสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชาที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน หรือของภาคเหนือ
เดี๋ยวนี้ วัดรอยพระบาทตากผ้า เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการเล่าเรียนพระปริยัติธรรม อีกทั้งแผนกผู้รู้ธรรม รวมทั้งบาลี ของพระสงฆ์เณรในภาคเหนือ นอกเหนือจากนี้แล้ว ทางวัดได้จัดให้มีการเจริญภาวนาพร้อมกันไปกับการเรียน ได้ก่อตั้งสำนักวิปัสสนาการเข้าฌานขึ้น เพื่อเป็นที่ประพฤติตามธรรมสำหรับพระสงฆ์เณร อุบาสก อุบาสิกา รวมทั้งผู้พึงพอใจทั่วๆไป
ได้กล่าวไว้ว่าในยุคพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าได้เสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์ในดินแดนสุวรรณภูมิ (เมืองไทยในขณะนี้) ท่านได้เสด็จไปในที่ต่างๆจนกระทั่งเสด็จถึงรอบๆวัดรอยเท้าตากผ้าที่นี้ซึ่งเป็นเขาหินลาด ก็เลยได้ทรงอธิษฐานประทับรอยรอยพระบาทลงในที่ที่นี้ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของมวลทวยเทพเทวดารวมทั้งมนุษย์ทั้งหลายแหล่และก็ท่านได้บอกให้พระอานนท์เอาผ้าจีวรไปตากบนหน้าผาลาด ใกล้รอบๆที่ประทับ ซึ่งปรากฏเป็นรอยมัวอยู่ โดยเหตุนั้น วัดนี้ก็เลยขึ้นชื่อว่า “วัดรอยพระบาทตากผ้า” มาถึงเดี๋ยวนี้ ขอหวยออนไลน์
ขอหวยลำพูนสถานที่ขอหวยของจังหวัดที่คอหวยไม่ควรพลาดจะมีใครบ้างนั้นติดตามได้เลยอันดับที่4 วัดมหาวันวนาราม
ตั้งอยู่ใกล้คูเมือง ด้านทิศตะวันตก ถนนจามเทวี ในเขตเมืองจังหวัดลำพูน วันมหาวัน จังหวัดลำพูนนั้นใช่ว่าจะมี จุดสำคัญด้วยเหตุว่าเพียงมีพระรอดเพียงอย่างเดียวแค่นั้น จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือวัดที่นี้เคยเป็นวัดหลวง ของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ที่อาณาจักรหริภุญ สิ่งที่น่าชมเชยเป็น พระพุทธสิกขิ หรือพระศิลาดำ ซึ่งพระนางจามเทวีเชิญมา จากเมืองละโว้ คนเมืองเรียกพุทธรูปองค์นี้ว่า พระรอดหลวง หรือพระรอดจังหวัดลำพูน ซึ่งมีความหมายและก็เป็นแบบฟอร์มใน การเลียนแบบทำพระเครื่องลาง ที่ลือชื่อเป็น พระรอดมหาวัน พระรอดได้ค้นหาเจอที่วัดมหาวันเพียงแค่ที่เดียวแค่นั้นเนื้อดินเผาละเอียด หนักนุ่มมากมาย องค์พระประทับนั่ง ขัดเพ็ชรปางมารวิชิตมีพื้นฝาผนังใบโพธิ์ทั้งสองด้าน มีศิลป์โดยรวมแบบอาณาจักรทวาราวดี – ศรีวิชัย เป็นแบบอย่างเฉพาะของสกุล ตอนยุคหริภุญไชย
วัดมหาวันวนารามทำขึ้นในยุคพระนางจามเทวีครอบครองหริภุญไชย พระนางจามเทวีนั้นเดิม อยู่ที่อาณาจักรละโว้ เมื่อฤาษีวาสุเทพ สร้างหริภุญไชยขึ้น พระนางจามเทวีได้เสด็จมาดูแลเป็น ปฐมกษัตริย์ที่อาณาจักรหริภุญไชย เมื่อพระนางจามเทวีเสด็จมา หริภุญไชยนั้นได้พาไพร่พลที่มีความสามารถสาขาต่างๆพร้อมภิกษุ ราวๆ 500 องค์มาด้วย แล้วก็เชิญพุทธรูปสำคัญอีก 2 องค์หมายถึงพระแก้วขาว (พระเสตัง คมณี) และก็พระศิลาดำ (พระพุทธสิกขิ) เมื่อถึงหริภุญไชย
พระนางจามเทวีโปรดให้สร้างวัดมหาวัน เพื่อเป็นที่จำพรรษาของภิกษุและก็นำพระศิลามาตั้งไว้ด้วย (ส่วนพระแก้วขาวนั้นพระผู้เป็นเจ้าเม็งรายที่ล้านนาได้เชิญ ไปเป็นพุทธรูปประจำท่าน และก็ตั้งไว้ที่วัดเชียงมั่น ใน จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้) ถัดมาหริภุญไชยกำเนิดการรบกับ ขุนลัวะวิลังขะ พระฤาษีก็เลยใช้พระศิลาดำเป็นต้นแบบสร้าง พระเครื่องลางแจกชาวกรุงเพื่อใช้ทำศึก พระเครื่องลางที่เหลือใส่เอาไว้ใน เจดีย์ที่วัดมหาวัน ถัดมา คาถาขอหวย
ในสมัยเมื่อเจดีย์ใส่พระปรักทรุดโทรมเสื่อมสภาพลง ประชาชนก็เลยเจอพระเครื่องลางที่เก็บไว้ต่างนำกันไปบูชาและก็ เจอกับฤทธิ์ขว้างฏิหารย์ต่างๆพระเครื่องลางพวกนี้เป็น พระรอดมหาวันที่มีชื่อเสียงนั่นเอง โดยสำหรับสถานที่แห่งนี้ ถือว่ามีประวัติ ความเป็นมาที่ยาวนาน หากใครที่ติดตาม จากข้อมูข้างต้น จะเห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของตัววัดของแน่นอน และยังไม่หมดเพียงแค่นั้น วัดแห่งนี้ยังสามารถกราบไหว ขอหน้าที่การงาน ขอโชคลาภได้อีกด้วยนั้นเอง
ขอหวยลำพูนสถานที่ขอหวยของจังหวัดที่คอหวยไม่ควรพลาดจะมีใครบ้างนั้นติดตามได้เลยอันดับที่5 วัดพระธาตุห้าดวง
วัดนี้เป็นที่ตั้งของหมู่เจดีย์ 5 องค์ ตามตำนานบอกว่าพระมเหสีจามเทวี กษัตริย์ครองบ้านครองเมืองหริภุญไชย ได้ยินข่าวจากพลเมืองเมืองหลบว่ามีดวงแก้ว 5 ดวง ปรากฏมองเห็นอยู่บ่อยมาก ก็เลยได้เสด็จมาดูด้วยท่านเอง กลางคืนก็เลยได้ดูมองเห็นแสงไฟจากดวงแก้วทั้งยัง 5 ดวง ลอยอยู่บนกองดิน 5 กอง ก็เลยได้ซักถามภูมิหลังก็รู้ว่า เป็นพระเมโตธาตุ (น้ำไคลมือ) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะพระภูมิเคยล้างพระมือ แล้วก็น้ำก็ไหลผ่านปลายนิ้วอีกทั้ง 5 ลงพื้นดิน
พระนางก็เลยกำเนิดเลื่อมใสสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ครอบกองดินอีกทั้ง 5 กองไว้ แล้วก็ในวันที่ 20 ม.ย. ของทุกปี จะมีจารีตประเพณีรดน้ำพระธาตุห้าดวง ด้านในรอบๆวัดมีตึกต่างๆมากมายก่ายกอง แต่ว่าที่เด่นสะดุดตาเป็นจุดสนใจตั้งแต่หยุดรถยนต์ ก็คือ “วิหาร 9 คุณครูบา” ในระหว่าง พุทธศักราช2364 – 2368 เจ้าหลวงคนรวยคำฝั้น เป็นผู้ครองนครจังหวัดลำพูน ท่านได้ทำซ่อมเมืองจังหวัดลำพูนอย่างดีเยี่ยม ตามใจความในเรื่องเก่าแก่หลบ
ฉบับพื้นบ้านอักษรล้านนาจารึกลงใบลานว่า “เจ้าหลวงคนรวยคำฝั้น” ได้นำบริวารมาปรับแก้เมืองจังหวัดลำพูนไปตามสายแม่น้ำหลบ ไปตลอดจนถึงเมืองหลบ ไม่ได้เข้าไปในเวียง คงจะตั้งอยู่ที่ตีนเขาพระบรมสารีริกธาตุ 5 ยอดนั่นเอง และก็กระทำการซ่อมองค์พระบรมสารีริกธาตุกระทั่งสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ต่อจากนั้นก็ได้มีพระครูบา 6 รูป ได้มาเจริญภาวนาบำเพ็ญภาวนาและก็รักษารวมทั้งซ่อมบูรณะวัดพระบรมสารีริกธาตุ ห้าดวง พระครูบาทั้ง 6 รูป
ขอหวยแม่ฮ่องสอน ในการเข้าไปเที่ยวยังสถานแห่งนี้ คุณจะได้เห็นพระคครูบา ที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก หากใครได้เข้าไปกราบไหว้ ขอพร หรือขอโชคต่างๆ มักได้ผลกลับเสมอ และหากใครที่เดินทางไป และเห็นอายุของท่าน คุณจะได้เลขเด็ดกลับไปอย่างแน่นอน พิธีปลุกพระขอหวยล่าสุด
ดูหนังใหม่ได้ที่นี่>>>หนังออนไลน์ล่าสุด
สมัครเป็นสมาชิกได้ที่นี่>>>UFABET