วัดเก่าแก่ ลำพูน วัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดที่สายบุญต้องไปซักครั้งอันดับที่1 วัดหนองเงือก
วัดเก่าแก่ ลำพูน เป็นวัดราษฎร์ขึ้นอยู่กับคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีเนื่อที่ 9 ไร่ 1 งาน 29 ตารางวา
วัดหนองเงือกสร้างเมื่อ พุทธศักราช 2371 ประวัติความเป็นมาวัดเล่าว่า เมื่อ พุทธศักราช 2371 เด็กผู้ชายอุปะละ ลูกของนายหัวใจ ปรารถนาที่จะบรรพชาเป็นเณรเพื่อเรียนรู้พระธรรมวินัย แม้กระนั้นในเวลานั้นหมู่บ้านหนองเงือกยังไม่มีวัด
นายหัวก็เลยเริ่มสร้างวัดประจำหมู่บ้าน ก็เลยได้นิมนต์คุณครูบาปาระมีมาเป็นประธานสร้างวัด สร้างเสร็จเมื่อ พุทธศักราช 2372 วัดหนองเงือกได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ช่วงวันที่ 21 เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2472
ตึกเสนาสนะและก็สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญ เป็นต้นว่า ซุ้มโขงแบบล้านนา เจดีย์ แล้วก็หอพักไตร หอพักไตรก่ออิฐถือปูนอีกทั้งข้างหลัง ตัวหอพักไตรสร้างเป็น 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องโล่งเตียนมีทางเข้าด้านเดียว ปากทางเข้านี้ทำเป็นซุ้มโค้งมีทั้งปวง 5 ช่อง ช่องทางด้านซ้ายมือสุด เป็นฝาผนังทึบมีรูปเทพเจ้าปูนปั้น 2 องค์แต่งแต้ม ฝาผนังของหอพักตรีด้านล่างอีกทั้ง 3 ด้านมีภาพวาดฝาผนัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลำพูน
ฝาผนังทางด้านซ้ายมือภาพเลอะเลือนไปมาก จิตรกรรมด้านข้างฝาผนังในหอพักไตร เป็นศิลปกรรมที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะเมียนมาร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องนุ่งห่มของคนภายในภาพ แม้กระนั้นคำชี้แจงภาพทั้งปวงเขียนด้วย ตัวหนังสือล้านนาทั้งหมดทั้งปวง
วิหารของวัดเป็นตึกทรงไทยล้านนา บานประตูมีลวดลายสลักไม้ที่สวย ด้านในวิหารจะมีเสาไม้สักอีกทั้งต้นขนาดหนึ่งคนโอบสูง 12 ศอก ข้างหลังของวิหารวัดเป็นเจดีย์ที่ใส่พระแก้วมรกตรวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุ เจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นในยุคของครูบาญาณะ เจ้าอาวาสรูปที่ 5 (พุทธศักราช 2453–2490) วัดในจังหวัดลําพูน มีกี่วัด
วัดเก่าแก่ ลำพูน วัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดที่สายบุญต้องไปซักครั้งอันดับที่2 พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย
ก่อสร้างขุดพื้นฐานการเริ่มต้นช่วงวันที่ 24 เดือนพฤศจิกายน 2538 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ ลักษณะองค์เจดีย์ จำลองแบบมาจาก พระมหาเจดีย์ ชเวดากอง ประเทศพม่า โดยมีพระเจดีย์องค์ใหญ่เป็นองค์ประธานอยู่กึ่งกลางมีความสูงจากฐานถึงปลายบัวยอดฉัตร 64.71 เมตร แล้วก็มีพระเจดีย์องค์เล็ก เป็นบริวารอยู่รอบๆปริมาณ 48 องค์ ซึ่งท่านหลวงปู่อาจารย์บาชัยยะวงศาคณาญาติปรับปรุง ท่านได้บอกคำจำกัดความว่า
พระเจดีย์องค์เล็ก 28 องค์แรก เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 28 ท่านที่ได้มารู้แจ้งเห็นจริงโปรดเวไนยสัตว์ที่ล่วงแล้วมาแล้วพระเจดีย์องค์เล็กอีก 10 องค์ หมายคือเมื่อครั้งองค์พระพุทธเจ้าได้เกิดต่างๆ10 ชาติส่วนพระเจดีย์องค์เล็กอีก 10 องค์ คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีก 10 ท่าน ที่จะมารู้อีกภายภาคหน้า ข้างในพระบรมธาตุจะใส่พุทธรูปขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ปริมาณ 84,000 องค์ ส่วนรอบนอกรอบๆกำลังปฏิบัติการสร้างซุ้มเพื่อจะติดตั้งรูปเสมือนพระอาจารย์ในประเทศไทย
ประเทศพม่า ปริมาณ 64 องค์เฉพาะองค์เจดีย์รวมทั้งบริวารตั้งอยู่บน พื้นที่ 1 ไร่ ขนาด 40 x 40 เมตร รากฐานที่สร้างพระเจดีย์เป็นบ่อหินแลงขนาดใหญ่ แน่นหนามากมาย ก็เลยไม่ต้องลงเสาเข็ม ฐานขั้นตอนแรกขุดลงไปต่ำลงยิ่งกว่าพื้นดินโดยประมาณ 1 เมตร ก่อด้วยหินแลงขึ้นเป็นทรงแปดเหลี่ยม เหมือนเค้ก วางซ้อนกันขึ้นมา 3 ชั้น ชั้นที่ 2 สร้างพระเจดีย์องค์เล็ก 32 องค์ ชั้นที่ 3 สร้างพรเจดีย์องค์เล็ก 16 องค์ ชั้นที่ 4 ก็เลยทำเป็นรูประฆังคว่ำเป็นทรงเดียวกับ
พระมหาเจดีย์ ชเวดากอง ประเทศพม่า รวมพื้นที่รอบๆพระเจดีย์ด้วยโดยประมาณ 6 ไร่ ปัจจัยที่ท่านได้เลือกก่อสร้างพระเจดีย์ ชเวดากอง (เลียนแบบ) ด้วยเหตุว่าสถานที่ที่นี้ได้ขุดเจอเขา มูลของพระวัวอุสุภราชซึ่งเป็นพระชาติหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงกินอยู่ ท่านหลวงปู่ฯ ก็เลยเลือกที่จะก่อสร้างพระเจดีย์เพื่อจะกันไม่ให้ประชาชนย้ายมาปลูกบ้านสร้างเรือนนอนทับที่ศักดิ์สิทธิ์ วัดป่า ในจังหวัดลำพูน
ซึ่งก่อสร้างโดยช่างรวมทั้งคนงานคนภูเขาเผ่าขว้างเกอะญอในชุมชนห้วยต้มโดยเงินเดือนที่ว่าจ้างน้อยกว่าค่าตอบแทนในตลาดแรงงานซึ่งจะเป็นเงินรวมทั้งข้าวสารเพราะเหตุว่าช่างกลุ่มนี้จะได้อุทิศแรงงานรวมทั้งความสามารถส่วนใดส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการดูแลรักษาทั้งยังร่วมส่งเสริมพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ตราบนานเท่านาน ยอดฉัตรพระเจดีย์องค์ประธานนั้น เรียกว่า “บัวยอดฉัตร”
ซึ่งจะทำจากทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนักราวๆ 25 โล เส้นผ่านศูนย์กลาง 16 ซม. ความยาวโดยประมาณ 52 ซม. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประทานนามพระมหาเจดีย์นี้ว่า พระมหาเจดีย์ศรีเวียงชัยพุทธเจดีย์พระผู้เป็นเจ้าห้าท่าน สิ่งสักการแทนองค์พระศาสดาทั้งยังห้าของเจริญกัป ที่แรกที่สร้างด้วยหินแลงทั้งยังองค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
วัดเก่าแก่ลำพูน วัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดที่สายบุญต้องไปซักครั้งอันดับที่3 วัดพระยืน
วัดพระยืน แรกเริ่มไม่ได้มีชื่อนี้ คาดการณ์ว่าพระนางจามเทวีทรงสร้างขึ้นในราว พุทธศักราช 1213 (ข้างหลังครองราชสมบัติได้ 7 ปี) ตามตำนานเรียกชื่อวัดนี้ว่า อรัญญิการาม
ชื่อของสงฆ์พระยืน มาจากองค์พุทธรูปยืน ที่ตามเอกสารของสงฆ์กล่าวว่า ทำขึ้นเมื่อ พุทธศักราช 1606 ในยุคพระผู้เป็นเจ้าธรรมไม่กราช (กษัตริย์องค์ที่ 32 ที่หริภุญชัย) พระยืนองค์นี้หล่อด้วยทองคำสำริด สูง 18 ศอก (9 เมตร) เดิมติดตั้งอยู่ในพระราชวังเจดีย์ (ข้างหลังวิหาร) ในปัจจุบันเรียกชื่อวัดว่า วัดพุทธอาราม
ถัดมาในปี พุทธศักราช 1912 พระยากือทุ่งนา ผู้ครอบครองอิงนครจังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งจังหวัดลำพูน ได้สร้างพุทธรูปยืนเพิ่มเติมขึ้นอีก 3 องค์ ใน ตำนานมูลศาสนา ได้เอ๋ยถึงในระหว่างที่พระญากือทุ่งนาได้นิมนต์นิมนต์พระสุมนเถระจากเมืองสุโขทัย เพื่อมาจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้พักที่วัดพระยืนในเมืองหริภุญชัย ซึ่งเวลานี้ได้มีพระยืน 1 องค์อยู่ก่อนแล้ว
ตราบจนกระทั่ง พุทธศักราช 2447 พระครูศีลวิลาศ (พระคันธวงศ์เถระหรือครูบาวงศ์) หัวหน้าคณะสงฆ์จังหวัดลำพูน พร้อมเจ้าหลวงอินทยงตำแหน่ง กษัตริย์จังหวัดลำพูน ได้ด้วยกันบูรณซ่อมแซมเจดีย์ขึ้นมาใหม่ โดยสร้างก่อหุ้มห่อปกคลุมองค์พระยืนทั้งยัง 4 ไว้ใน พร้อมทั้งสร้างพุทธรูปยืนองค์เล็กมากยิ่งกว่าขึ้นมาประดับประดาเจดีย์ทั้งยัง 4 ด้าน
พุทธศักราช 2471 กรมศิลปากรได้ขึ้นบัญชีเจดีย์วัดพระยืนเป็นมรดกของชาติ ตราบจนกระทั่งเมื่อ พุทธศักราช 2548–2549 กรมศิลปากรได้กระทำซ่อมแซมบูรณะองค์พระเจดีย์วัดพระยืน และก็การปรับภูมิทัศน์รอบๆของสงฆ์ ได้เจอสิ่งก่อสร้าง ก่อด้วยฐานก้อนอิฐนับว่าเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บางทีอาจสาวไปถึงการก่อสร้างวัด โดยมีการขุดเจอฐานเจดีย์ยุคจังหวัดสุโขทัย ถนนหนทางที่ปูลาดด้วยก้อนอิฐโบราณ
รวมทั้งการขุดเจอฐานเสนาสนะ กระทั่งตอนวันที่ 13 ก.พ. พุทธศักราช 2549 ได้ขุดเจอเศียรพุทธรูปยุคหริภุญชัย คาดคะเนว่าแก่ในยุคพุทธศักราชที่ 17–18 แล้วก็ของเก่าเยอะๆ อยู่ในฐานพระเจดีย์ที่ฝังอยู่ใต้ดินรอบๆข้างหลังวิหารพระเจ้าทันใจ วัดที่สวยที่สุดในลําพูน
วัดเก่าแก่ลำพูน วัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดที่สายบุญต้องไปซักครั้งอันดับที่4 วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
ตำนานมูลศาสนาแล้วก็ตำนานพระบรมสารีริกธาตุเจ้าหริภุญชัย พูดว่า ครั้นเมื่อพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาบิณฑบาตในหมู่บ้านของเหล่าเม็งคบุตร แล้วเสด็จเลาะสายธารแม่ระไม่งค์ (แม่น้ำปิง) พวกเม็งตามเสด็จมาถึงที่สถานที่หนึ่งทางทิศตะวันตกของแม่น้ำ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถยนต์จะนั่ง ก็มีแท่นหินก้อนหนึ่งผุดขึ้นมาจากพื้นดิน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เลยทรงวางบาตรและก็ประทับเหนือแท่นหินนั้น
ชมพูพญานาคและก็พญากาเผือกออกมาอุปัฏฐากท่าน ลัวะผู้หนึ่งได้มอบให้หมากสมอ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฉันเสร็จได้ซัดเม็ดสมอลงเหนือพื้นดิน เม็ดสมอเวียน 3 รอบ แล้วจึงได้ฝังพระเส้นผมแล้วเอาผลสมอทับไว้ มีพุทธทำนายว่า ในอนาคตข้างหน้าเมื่อพระเจ้าเป็นต้นว่าตยราชครองราชย์ สถานที่นี้จะเป็นที่ตั้งของมหานครใหญ่ชื่อ “หริภุญชัย” เนื่องจากว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาฉันหมากสมอที่นี้ พระดังลำพูน
ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งจะเป็นที่ตั้งของเจดีย์ที่ติดตั้งพระบรมสารีริกธาตุ มีธาตุกระดูกพระเศียร ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้ว และก็ธาตุย่อย รวม 1 บาตรเต็มในมหานครที่นี้ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จกลับไปแล้ว พญากาเผือกเมื่อได้ยินพุทธคาดการณ์ก็นึกออกสิ้น เมื่อบินกลับถึงป่าหิมพานต์ก็เลยเรียกกาดำผู้เป็นหลานมาเล่าพุทธทาย พร้อมให้กาดำอยู่เฝ้ารักษาสถานที่ เหล่าเทวดา ยักษ์ ฤษี พากันมาบูชาแท่นหินนั้นเสมอๆ
ตำนานพระบรมสารีริกธาตุเจ้าหริภุญชัยว่าแท่นหินนั้นจมลงไปในดินดังเดิม วันหลังพระยาศรีธรรมาโศกราชได้นำพระบรมธาตุใส่ด้านในกระบอกไม้รวก แล้วใส่ไว้ในโกศแก้วลูกใหญ่ 3 กำ ใส่ใต้ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งฉันหมากสมอ
เมื่อพระเจ้าเช่นตยราชที่อาณาจักรหริภุญชัยเสวยราชย์ (ตำนานแต่ละเล่มกล่าวขัดแย้ง ตำนานมูลศาสนาว่าตรงกับปีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตายแล้ว 1,008 ปี ตำนานพระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัยว่า พุทธศักราช 1420 จามเทวีตระกูลว่า พุทธศักราช 1586 เคยชินกาลผกาปกรณ์ว่า พุทธศักราช 1590) พระเจ้าเช่นตยราชเป็นกษัตริย์ที่มีพระบรมเดชานุภาพ พระปัญญาเยี่ยม ทรงบำรุงศาสนา ชาติบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ครั้งหนึ่ง
พระเจ้าอาทิเช่นตยราชโปรดฯ ให้สร้างพระราชเรือนหลวงเป็นที่ประทับ พร้อมสร้างหอพักจัณฑาติดอยู่รที่ลงพระบังคน แม้กระนั้นบังเอิญหอนั้นไปสร้างตรงกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยประทับแล้วก็ทาย เมื่อท่านจะเสด็จไปสู่วลัญชนฐาน (ห้องอาบน้ำ) ครั้งไหน กาที่เฝ้ารักษาก็จะบินผ่านมาแล้วปลดปล่อยอาจมให้จะต้องท่านทุกคราว ท่านก็เลยเสด็จไปเข้าวลัญชนฐานที่อื่น แต่ว่ากาก็ยังคงบินร่อนด้านบนแล้วก็โฉบลงเหนือเศียรท่าน เป็นแบบนี้ 2-3 ครั้ง
กระทั่งพระเจ้าเป็นต้นว่าตยราชโกรธแล้วก็สั่งให้พวกอำมาตย์ไล่จับกา ทวยเทพบันดลให้กาติดบ่วง พระเจ้าอาทิเช่นตยราชจะให้ฆ่ากาเสีย อำมาตย์ได้ทูลคัดค้านไว้รวมทั้งให้หาโหราจารย์มาพยากรณ์ หมอดูพยากรณ์ว่าผลดีอันยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นแก่พระเจ้าเช่นตยราช ตกยามค่ำคืนทวยเทพเทวดาพยาบาลพระบรมสารีริกธาตุก็มาทูลพระเจ้าอาทิเช่นตยราชในฝัน แนะให้นำกุมารกำเนิดได้ 7 วันมาอยู่กับกา 7 วัน
สลับกับอยู่กับคน 7 วัน จนถึงครบ 7 ปี กุมารจะสามารถผู้ภาษากาได้ ท่านก็แจ่มแจ้งต้นเหตุที่ความประพฤติของกา พระเจ้าเป็นต้นว่าตยราชก็ทรงทำตามอย่าง เพียงพอครบ 7 ปี พระเจ้าอาทิเช่นตยราชให้พากุมารแล้วก็กามซักถาม กาก็เลยเล่าผ่านกุมารถึงพุทธคาดการณ์และก็สมัครใจไปตามพญากาเผือกมายืนจนถึง เมื่อพญากาเผือกพร้อมบริวารมาถึงก็ทูลเล่าพุทธคาดเดาอีกรอบ
บทความหวยอื่น>>> วัดเก่าแก่ สุพรรณบุรี
อ่านบทความการ์ตูน>>> มังงะ
แทงบอลออนไลน์ที่นี่>>> แทงบอล