วัดในพม่า วัดที่คนไทยเดินทางไปกราบไหว้ขอโชคลาภมากที่สุดของพม่าอันดับหนึ่ง เจดีย์ชเวดากอง

วัดในพม่า ตั้งอยู่รอบๆเนินสิงคุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยคำว่า “ชเว” คือ ทองคำ, “ดากอง” เป็นชื่อเริ่มแรกของเมืองย่างกุ้ง เช้าใจกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่ใส่พระเส้นผมธาตุของพระวัวโคลนตมพระพุทธปริมาณ 8 เส้น ยอดสุดขององค์เจดีย์รอบๆลูกแก้วหรือหยดน้ำข้างประดับโดยการใช้เครื่องเพชรพลอยต่างๆและก็เพชร 5,448 เม็ด ข้างบนสุดมีทับทิม 2,317 เม็ดแล้วก็เพชรเม็ดใหญ่ 76 กะรัต เพื่อรับลำแสงแรกและก็ลำแสงในที่สุดของดวงตะวัน คนที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมต้องถอดรองเท้าทุกคราว

เจดีย์ชเวดากอง นั้นสร้างเมื่อ 2,500 ปีที่ผ่านมา แม้กระนั้นนักประวัติศาสตร์และก็นักโบราณคดีเช้าใจกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6–10 โดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นบอกว่ามีลูกพี่ลูกน้องพ่อค้า 2 คนเป็น ตปุสสะรวมทั้งภัลลิกะ จากทางเหนือของเนินสิงคุตระ ได้ไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็เลยประทานพระเส้นผมให้พ่อค้าทั้งคู่มา 8 เส้น พ่อค้าทั้งคู่กลับมายังประเทศพม่าและก็ได้เรื่องช่วยเหลือจากผู้ดูแลแคว้น พระเจ้าแผ่นดินโอะกะลาปะ สำหรับเพื่อการติดตั้งพระเส้นผมธาตุรอบๆเนินสิงลุกตระ

องค์เจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างย่ำแย่จนกระทั่งมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 พระยาอู่ (คริสต์ศักราช 1323–1384) ได้ทรงซ่อมเจดีย์ให้มีความสูง 18 เมตร  ศตวรรษถัดมาพระนางเชงสอบู (คริสต์ศักราช 1453–1472) ได้ทรงซ่อมเจดีย์ให้มีความสูงถึง 40 เมตร (131 ฟุต) ได้ทำเปลี่ยนแปลงเนินซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์เจดีย์ให้เป็นฐานเจดีย์ลาดเป็นชั้นๆแบบขั้นบันได และก็ปูพื้นข้างบนของฐานด้วยแผ่นหิน

พระนางตรัสให้มีการทำนุบำรุงองค์เจดีย์ถัดไปแก่พระเจ้าธรรมเจดีย์ ซึ่งปกครองแผ่นดินต่อข้างหลังพระนางสละราชบัลลังก์ ในตอนตอนปลายพระชนม์ชีพพระนางทรงไม่สบายรวมทั้งมีพระบัญชาการให้วางแท่นบรรทมในจุดที่ท่านสามารถเห็นเจดีย์ได้ทุกเมื่อ มีการจารึกภาษามอญบันทึกการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์ที่เริ่มในปี คริสต์ศักราช 1436 กระทั่งซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์ในรัชสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถัดมาเจดีย์ชเวดากองได้แปลงเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวพุทธที่มีชื่อที่สุดในเมียนมาร์

แผ่นดินไหวนิดๆหน่อยๆบ่อยมาทำให้เจดีย์ได้รับความเสื่อมโทรม รวมทั้งเมื่อปี คริสต์ศักราช 1768 ได้กำเนิดแผ่นดินไหวอย่างมาก ทำให้ยอดของเจดีย์หักกระหน่ำลงมา แต่ว่าได้มีการซ่อมแซมให้สูงมากขึ้นถึง 99 เมตร (325 ฟุต) ฉัตรองค์ใหม่สำหรับประดับประดายอดเจดีย์ได้รับการมอบให้จากพระเจ้าไม่นป่า เมื่อปี คริสต์ศักราช 1871 ข้างหลังการรวมดินแดนประเทศพม่าตอนล่างโดยอังกฤษ แผ่นดินไหวที่มีความร้ายแรงปานกลางในตุลาคม ปี คริสต์ศักราช 1970 ทำให้เพลาฉัตรบนยอดองค์เจดีย์ได้รับความทรุดโทรม มีการสร้างโครงรวมทั้งซ่อมครั้งใหญ่

ช่วงวันที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ – 7 เดือนมีนาคม คริสต์ศักราช 2012 มีเทศกาลฉลองรายปีของเจดีย์ชเวดากองเป็นครั้งแรกตั้งแต่แมื่อปี คริสต์ศักราช 1988 ข้างหลังถูกห้ามโดยที่ประชุมความสงบสุขและก็การพัฒนาที่เมือง ที่ดูแลประเทศเวลานี้ เทศกาลเจดีย์ชเวดากองเป็นเทศกาลเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 เย็น เดือนดะบ้อง ไปจนกระทั่งวันขึ้น 15 เย็น ตามปฏิทินเมียนมาร์

 

วัดในพม่า

 

วัดในพม่า วัดที่คนไทยเดินทางไปกราบไหว้ขอโชคลาภมากที่สุดของพม่าอันดับสอง เจดีย์ชเวมอดอ

เป็นเจดีย์สำคัญที่อยู่ในเมืองพะโค (หงสาวดี) ประเทศพม่า มีความสูง 114 เมตร นับว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศเมียนมาร์ แต่ว่าเจดีย์ชเวดากองในเมืองย่างกุ้งเอาแต่ได้รับการบันทึกว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศ 98 เมตร เนื่องจากตั้งบนเนิน เช้าใจกันว่าเจดีย์ชเวมอดอเป็นมหาเจดีย์ที่ใส่พระเกศธาตุและก็พระเขี้ยวแก้วของพระโคตมพุทธเจ้า เจดีย์ชเวมอดอ เจดีย์ชเวดากอง รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุไจที่โย่เป็นเจดีย์ที่โด่งดังที่ชาวมอญสร้างขึ้น เทศกาลรายปีฉลองเจดีย์ชเวมอดอจัดในตอนเดือนดะกู้ ตามปฏิทินประเทศพม่า

จดีย์ชเวมอดอมีชื่อเรียกในภาษามอญซึ่งชาวไทยเคยชินกับชื่อนี้เป็น พระบรมธาตุมุเตา หมายความว่า “จมูกร้อน” ด้วยเหตุว่าพูดกันว่าพระเจดีย์องค์นี้สูงมากมาย จำเป็นต้องแหงนหน้ามองจนถึงจำต้องกับแสงอาทิตย์ เดี๋ยวนี้เจดีย์ชเวมอดอมีความสูงที่ 114 เมตร เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศเมียนมาร์

เจดีย์ในพม่า มีการคาดคะเนว่าเจดีย์ชเวมอดอสร้างขึ้นราวโดยประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 10 ตั้งแต่ยุคอาณาจักรมอญเรืองอำนาจ เดิมเจดีย์ชเวมอดอมีความสูง 21 เมตร (69 ฟุต) สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานเล่าว่าพ่อค้าชาวมอญสองคนชื่อ มากมายแล้วก็จุลศาล ได้เดินทางไปประเทศอินเดียยุคพุทธกาลและก็ได้รับพระเกศาธาตุจากพุทธองค์ นำกลับมาติดตั้งในเจดีย์ชเวมอดอ ตอนหลังได้มีการใส่พระเขี้ยวแก้วเอาไว้ในพระเจดีย์เมื่อปี คริสต์ศักราช 982 และก็ปี คริสต์ศักราช 1385 ในยุคพระเจ้าราเชนทร์ ถัดมาในยุคพระเจ้าธรรมเจดีย์ ได้โปรดกรุณาให้มีการสร้างพระวิหารรวมทั้งหล่อระฆังมอบให้

ในยุคพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ใช้เป็นที่ทำพิธีเจาะพระหูเมื่อครั้งท่านขึ้นครองราชย์ใหม่ๆที่ตองอู ภายใต้วงล้อมของทหารมอญหลายหมื่นนายที่เป็นศัตรู แต่ว่าก็ไม่บางทีอาจทำอะไรท่านได้ ตอนหลังพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้สามารถยึดพะโคเป็นราชจังหวัดที่ใหม่ได้เสร็จ

ในรัชกาลถัดมาเป็นพระเจ้าบุเรงท่วมได้มีการสร้างฉัตรมอบเพิ่มอีกหลายชั้น จนถึงพระเจดีย์สูงมากขึ้นอีกหลายเท่า และก็ได้มีการมอบให้พระมงกุฎเป็นพุทธบูชา ทั้งพูดกันว่าก่อนที่จะท่านจะออกออกศึกเมื่อใด จะทรงมานมัสการพระเจดีย์นี้ก่อนทุกคราว ซึ่งในตอนนี้จุดที่มั่นใจว่าท่านกระทำการสักการะบูชาก็ยังปรากฏอยู่ รวมทั้งสมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนทัพมาตีพะโคก็ได้เสด็จมานมัสการ ในยุคพระเจ้าปดุงได้มีการมอบให้ฉัตรยอดพระเจดีย์องค์ใหม่

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระเจดีย์ได้รับความทรุดโทรมเนื่องมาจากแผ่นดินไหวบ่อย และในปี คริสต์ศักราช 1917 และก็ปี คริสต์ศักราช 1930 แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี คริสต์ศักราช 1917 ทำให้ยอดพระเจดีย์พังทลายลงมา ข้างหลังการบูรณะได้มีการเก็บส่วนยอดพระเจดีย์ที่พังทลายลงมาเอาไว้ในจุดเดิม

 

วัดในพม่าวัดที่คนไทยเดินทางไปกราบไหว้ขอโชคลาภมากที่สุดของพม่าอันดับสาม พระธาตุไจที่โย่

เป็นเจดีย์ที่จาริกแสวงบุญของชาวพุทธ ตั้งอยู่ในเมืองมอญ ประเทศพม่า เป็นพระเจดีย์ขนาดเล็ก ทำขึ้นบนหินแกรนิตที่ปิดด้วยทองคำเปลวโดยคนที่เชื่อถือศรัทธา มั่นใจว่าพระบรมสารีริกธาตุไจที่โย่เป็นที่ตั้งพระเส้นผมธาตุของพระวัวตมพุทธเจ้า ตั้งอยู่รอบๆผาชันบนยอดดอยไจที่โย่อย่างล่อแหลม เสมือนจะตกแล้วก็ท้าแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมา ตามตำนานบอกว่าฤษีตำหนิสสะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับพระเกศาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารวมทั้งเอามาเอาไว้ภายในมวยผม

ตั้งมั่นจะนำพระเกศาไปใส่ไว้ภายในหินที่มีรูปร่างคล้ายกับศีรษะของฤษี ท้าวสักกเทวราช ก็เลยช่วยค้นหาหินดังที่กล่าวถึงมาแล้วจากใต้ท้องห้วงมหาสมุทรและก็เอามาวางเอาไว้ด้านบนเทือกเขา พระบรมสารีริกธาตุไจที่โย่นับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของชาวประเทศพม่า ปัจจุบันนี้สตรีมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายในรอบๆพระบรมธาตุ ซึ่งดูแลโดยรปภ.ซึ่งเฝ้าทางเข้าออกรอบขอบติด สตรีสามารถเข้าออกถึงที่กะไว้ระเบียงข้างนอกรวมทั้งลานข้างล่างของหิน 5 วัด ในพม่า

ตำนานที่เกี่ยวเนื่องกับเจดีย์พูดว่า ฤษีติสสะได้รับพระเกศาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็ผูกหลบซ่อนไว้ภายในจุกผมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสำหรับในการเดินทางกลับเพื่อมอบให้กษัตริย์ ด้วยความมั่นหมายที่จะติดตั้งพระเกศาเอาไว้ภายในหินที่มีรูปร่างราวกับหัวของฤษี กษัตริย์มีแม่เป็นลูกสาวของพญานาค

เจอหินที่ข้างล่างของสมุทร และก็ได้รับความให้การช่วยเหลือจากพระอินทร์ สำหรับเพื่อการหาสถานที่วางหินเพื่อสร้างพระเจดีย์ เรือที่ใช้เพื่อสำหรับการขนส่งหินเปลี่ยนเป็นหิน และก็เป็นที่เทิดทูนบูชาโดยผู้แสวงบุญ โดยอยู่ห่างจากพระบรมธาตุไจที่โย่ราว 300 เมตร รู้จักกันในชื่อ พระเจดีย์เจาะตานบานอีกชื่อ “พระเจดีย์เรือหิน”

ตำนานอีกตำนานพูดว่า ในยุคพุทธกาล ฤๅษีติสสะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับพระเกศาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้นเมื่อได้มาแสดงธรรมเทศน์ในดินแดนสุวรรณภูมิ คนที่ได้รับมอบพระเกศาต่างก็นำไปใส่ในเจดีย์ ส่วนฤษีติสสะกลับนำไปหลบซ่อนเอาไว้ภายในมวยผม เมื่อเวลาผ่านพ้นถึงเวลาที่ฤษีติสสะจำเป็นต้องละสังขารเหลือเกิน เขาตั้งอกตั้งใจไว้ว่าจะนำพระเกศาไปใส่เอาไว้ภายในหินที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวของเขา

พระอินทร์ก็เลยช่วยค้นหาหินดังกล่าวข้างต้นจากใต้ท้องห้วงสมุทรรวมทั้งเอามาวางเอาไว้ที่ด้านบนเทือกเขาหิน บางตำนานก็เล่าว่า มีฤษีองค์หนึ่งหลบซ่อนพระเกศาที่ได้รับมาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อพอมาโปรดสัตว์ในถ้ำเอาไว้ในมวยผมมาเป็นระยะเวลานาน

เมื่อใกล้ถึงวาระที่จะจำเป็นต้องละสังขารก็เลยตกลงใจมอบพระเกศาให้กับพระเจ้าตำหนิสสะ กษัตริย์ผู้ครองนครแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกของศิษย์ที่เอามาฝากให้ฤษีช่วยดูแลตั้งแต่เล็ก เมื่อก่อนอื่นพระเจ้าติสสะต้องหาหินที่มีลักษณะเหมือนหัวของฤษี โดยมีพระอินทร์เป็นผู้ช่วยค้นหาจากใต้มหาสมุทรเอามาวางไว้ที่ผา

ในความเลื่อมใส นักแสวงบุญโดยการเดินป่าจากฐานค่ายกีนมู่นมายังพระบรมธาตุ สามครั้งติดต่อกันในหนึ่งปีจะมีความร่ำรวยแล้วก็ได้รับคำสดุดี

 

วัดในพม่า

 

วัดในพม่าวัดที่คนไทยเดินทางไปกราบไหว้ขอโชคลาภมากที่สุดของพม่าอันดับสี่ พระนอนชเวตาลยอง

เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ทางทิศตะวันตกของเมืองหงสาวดี องค์พระมีความยาว 55 เมตร สูง 16 เมตร เป็นพุทธศิลปแบบมอญ มั่นใจว่าได้รับการผลิตขึ้นในปี พุทธศักราช 1537 ตอนยุคมอญเรืองอำนาจ ในรัชสมัยของกษัตริย์เมกะตำหนิปะ ร่วมยุคเดียวกับพระราชวังบันทายศรีของเขมร รวมทั้งหายไปในปี พุทธศักราช 2300 เมื่อหงสาวดีถูกตีแตกโดยพระผู้เป็นเจ้าอทดลองพญา

ในตอนการปกครองอาณานิคมของอังกฤษในปี พุทธศักราช 2423 ระหว่างการผลิตรางรถไฟ พุทธรูปได้ถูกศึกษาและทำการค้นพบภายใต้การปกคลุมของป่ารกทึบ การบูรณะเริ่มขึ้นในปี พุทธศักราช 2424 ทางการประเทศพม่าได้สร้างโรงเรือนหุ้มไว้ แม้กระนั้นภาวะโรงเรือนค่อนจะแออัด ดูไม่สวยสวย

เพราะว่าหุ้มเหนือองค์พระไว้เพียงแต่หน่อยเดียว ดังนี้เป็นด้วยเหตุว่าการผลิตโรงเรือนหุ้มไว้คราวหลัง เหมือนกับพระพุทธไสยาสน์ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารในไทย แล้วก็มีการสร้างหมอนโมเสกของพุทธรูปในปี พุทธศักราช 2473

ลักษณะเด่นของพระนอนองค์นี้เป็น รอบๆพระบาทไม่วางเท่ากันราวกับอย่างพุทธรูปปางไสยาสน์ของไทย อันแปลว่า ตอนนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ ซึ่งเป็นกิริยาอาการก่อนที่จะท่านจะเสด็จสู่ตายในวันต่อมา

เดี๋ยวนี้ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาลยองเป็นพุทธรูปองค์สำคัญของเมืองหงสาวดี เป็นเสมอเหมือนเครื่องหมายประจำเมืองอย่างหนึ่ง เหมือนกันกับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจดีย์ชเวดากอง

 

วัดในพม่าวัดที่คนไทยเดินทางไปกราบไหว้ขอโชคลาภมากที่สุดของพม่าอันดับห้า เจดีย์โบตะทอง

เป็นเจดีย์ที่เป็นที่รู้จักแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางนคร วัดในย่างกุ้ง ประเทศพม่า ใกล้แม่น้ำย่างกุ้ง เจดีย์ทำขึ้นทีแรกโดยชาวมอญขณะเดียวกันกับเจดีย์ชเวดากอง ตามความเลื่อมใสแคว้นสร้างเมื่อกว่า 2,500 ปีที่ล่วงเลยไป รวมทั้งมีนามแฝงว่าภาษามอญว่า “ไจเดอัต” เจดีย์กลวงด้านในและก็มั่นใจว่าเป็นที่ตั้งพระเกศธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ตามตำนานกษัตริย์มอญนามว่าโอะกะลาปะ ได้ให้นายทหารระดับแม่ทัพ 1,000 นาย เข้าแถวมอบให้สักการะ พระเกศาธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พ่อค้าสองญาติพี่น้อง ตปุสสะและก็ภัลลิกะ เชิญมาทางทะเลจากอินเดีย และก็มาขึ้นบกเมืองตะเกิงหรือดากองในรอบๆนี้เมื่อ 2,000 ปีกลาย ก็เลยสร้างเจดีย์โบตะทองไว้เป็นของที่ระลึก พร้อมกับแบ่งพระผม 1 เส้นมาบรรจุไว้ ก่อนนำไปใส่ในเจดีย์ชเวดากองแล้วก็เจดีย์สำคัญอื่นๆ

ตอนวันที่ 8 เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2486 ตอนสงครามโลกครั้งที่สอง เจดีย์ได้ถูกทำลายลงเพราะว่าการทิ้งระเบิดจู่โจมท่าเรือย่างกุ้งของกองทัพอากาศอังกฤษเจดีย์ถูกทิ้งเอาไว้ภายในซากสีดำ

การบูรณะเจดีย์เริ่มขึ้นในวันเดียวกันกับที่ประเทศพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษเป็น 4 ม.ค. พุทธศักราช 2491 ภายหลังที่นำซากออกมาจากพื้นดินแล้วจึงเริ่มแนวทางการขุดที่ความลึกโดยประมาณเจ็ดฟุต เพื่อสร้างโครงสร้างรองรับของเจดีย์องค์ใหม่ มีการค้นหาเพิ่มอีกรอบๆศูนย์กลาง

พื้นที่ที่ระดับความลึกสามฟุต เจอกรุที่ผลิตขึ้นอย่างยอดเยี่ยมรวมทั้งมีขนาดเบาๆลดน้อยลงจากข้างบน และก็ปรากฏผอบขนาดใหญ่วางสลับด้านครอบทับสิ่งที่อยู่ข้างใน ศูนย์กลางกรุเจอผอบหินทรงเจดีย์ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 23 นิ้วและก็สูง 39 นิ้ว บริเวณผอบเจอรูปนะที่แกะจากหินแลงเพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้รักษารักษา ผอบถูกเจอฝังอยู่ในโคลนเนื่องจากมีน้ำซึมเข้ามาในกรุตลอดตอนหลายศตวรรษก่อนหน้าที่ผ่านมา

 

วัดในพม่า

 

ด้านในกรุที่เก็บผอบหินทรงเจดีย์เจอทรัพย์สินล้ำค่าหลากหลายประเภทได้แก่ เพชรนิลจินดา, เครื่องเพชรพลอย, อัญมณี, จารึกดินเผา, และก็พุทธรูปทอง, เงิน, ทองสัมฤทธิ์, หิน พุทธรูปปริมาณทั้งผองข้างในแล้วก็ด้านนอกผอบราวกว่า 700 องค์ จารึกดินเผาเล็กน้อยเอ๋ยถึงการดูแลและรักษาธรรมแล้วก็เรื่องราวทางศาสนาพุทธ

บทความหวยอื่น>>> วัดในเวียดนาม

ดูหนังออนไลน์ได้ที่นี่>>> หนังออนไลน์ล่าสุด

แทงบอลออนไลน์ที่นี่>>> แทงบอล