5 คาถาอาจารย์ดัง คาถาเสริมทรัพย์ตื่นนอนก่อนนอนต้องสวดอาจารย์องค์ที่1 หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
5 คาถาอาจารย์ดัง เป็นพระภิกษุไทยประจำวัดบ้านไร่ เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 อายุ 91 ปี เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2466 ชื่อเกิดคือ คุณฉัตรโปรกลาง เป็นบุตรบุญธรรม กับ ทองขาว ฉัตรโปรกลาง เขามีน้องสาวสองคน
เขาและน้องสาวของเขาได้รับการดูแลจากป้าของเขาหลังจากที่พ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิตในช่วงวัยหนุ่มของเขา เมื่ออายุได้ 6 ขวบ ได้เริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาและภาษาไทยกับพระอาจารย์ช่วย วิดธาโร อาจารย์ชาย และอาจารย์ลี
ได้อุปสมบทที่วัดถนนหักใหญ่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 โดยมีพระนามว่า ปาริสุดโธ ขึ้นทะเบียนเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพ เป็นภิกษุผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนมากมาย
ต่อมาได้ขึ้นทะเบียนเป็นศิษย์หลวงพ่อคง พุทธสโร ครั้นเข้าใจพระธรรมแล้วเสด็จไปท่องเที่ยวธรรมะที่จังหวัดนครราชสีมา แล้วพระธรรมก็เสด็จประพาสลาวและกัมพูชาต่อไป พ.ศ. 2482 เสด็จกลับจังหวัดนครราชสีมา
โดยได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านบ้านไร่ จึงได้พัฒนาวัดบ้านไร่ขึ้น เขาอาศัยอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 อายุ 91 ปี งานศพของเขาจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2019 ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยจะมีในเรื่องบทสวดมนต์ที่สามารถเรียกทรัพย์ก่อนนอน ตั้งนะโม 3 จบ และต่อด้วย พุทธังโหม ธัมมังโหม สังฆังล้อม อันตะรายาวินาศสันติ สวดทุกเช้าแะก่อนนอน กิจการรุ่งเรืองแน่นอน
5 คาถาอาจารย์ดัง คาถาเสริมทรัพย์ตื่นนอนก่อนนอนต้องสวดอาจารย์องค์ที่2 หลวงพ่อเกษม เขมโก
ในวงศ์วานของกษัตริย์ลำปางในสมัยล้านนา ได้เป็นสามเณรในปี พ.ศ. 2468 หลังจากที่อาของท่านเจ้าอาวาสวัดบุญเย็นถึงแก่กรรม พ.ศ. ๒๔๗๐ เสด็จฯ กรุงเทพฯ วัดเศรษฐีวรรณ เพื่อเรียนภาษาบาลี ต่อมาได้เสด็จกลับภาคเหนือเพื่อศึกษาต่อที่วัดสีลมและวัดบุญยาว
หลังจากสอบผ่านที่บาลี พ.ศ. 2476 ได้บวชเป็นพระที่วัดบุญยืนเมื่ออายุได้ 21 ปี พระอุปัชฌาย์คือท่านท่านเจ้าคุณธรรมจินดา ได้เข้าพบหลวงพ่อครูบาแก่น พระที่มีชื่อเสียงมากในภาคเหนือของประเทศไทย พระภิกษุป่าผู้มีประสบการณ์มากในการทำสมาธิ หลวงพ่อเกษมเป็นลูกศิษย์และเริ่มปฏิบัติธรรมร่วมกับท่านในป่าและสุสาน
เมื่อเจ้าอาวาสวัดบุญยืน-พระดอมคำ ออกจากตำแหน่งและวัด (เพราะความเบื่อหน่าย) ชาวบ้านจึงเข้าไปหาหลวงพ่อเกษมหนุ่ม (ยังฝึกสมาธิอยู่ลึกๆ) เพื่อกลับลำปางเติมตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์ใหม่
หลวงพ่อเกษมยังคงศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรมอยู่แม้เป็นเจ้าอาวาส ยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าไหร่
เขาก็ยิ่งตระหนักว่าชีวิตไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าอาวาสทำให้เขายุ่งอยู่กับทางที่ห่างไกลจากความตั้งใจทางจิตวิญญาณมากกว่าที่เขาคิด ดังนั้นใน พ.ศ. 2492 พระองค์จึงเสด็จออกจากวัดมาประทับอยู่ที่สุสาห์ สาละวังธาน
สุสานที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบที่ชานเมืองลำปาง (ดูแผนที่) บริเวณนี้ดูแตกต่างไปจากไซต์ที่พัฒนามาอย่างดีที่เราพบเห็นในทุกวันนี้ หลายคนกลัวที่จะไปที่นั่นเพราะว่ากันว่ามีผีสิง หลวงปู่เกษมตั้งใจปฏิบัติภาวนาให้สูงสุดอยู่ตรงนั้น เขาจะนั่งหน้าเมรุและดูศพที่กำลังลุกไหม้ ไม่ว่าจะแดดร้อนหรือฝนตก หลวงพ่อก็จะนั่งเงียบๆ และดูศพที่เผาเป็นเถ้าถ่าน
คาถาเสริมดวงจากหลวงพ่อเกษม เขมโก ตั้งนะโม 3 จบ สีวลี มหาเถรัง วันทามิหัง ( 3 จบ ) มหาสีวลีเถโร มหาลาโภ โหติ มหาสีวลีเถโร ลาภัง เม เทถะ สวดก่อนนอน
5 คาถาอาจารย์ดังคาถาเสริมทรัพย์ตื่นนอนก่อนนอนต้องสวดอาจารย์องค์ที่3 หลวงพ่อรวย วัดตะโก
เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2464 ที่บ้านตะโก หมู่ที่ 2 ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรชายของนายหมีและนางสินลา มีพี่น้อง 8 คน บรรพบุรุษของบิดาของเธอคือชาวกรุงศรีสถิตแห่งอาณาจักรล้านช้าง เมื่ออายุได้ 12 ปี ได้ศึกษาที่วัดตะโก เพราะสมัยนั้น ในเขตตำบลหญ้านางไม่มีโรงเรียน ประถมจึงต้องเรียนกับพระที่ศาลา และเมื่ออายุได้ 16 ปี ได้บวชเป็นสามเณรมีพระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตะโกเป็นพระอุปัชฌาย์
สามารถสอบธรรมะชั้นหนึ่งขณะมีเพศสัมพันธ์เป็นสามเณรจนได้ อายุ 20 ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2484 กับพระครูสุนทรธรรมนิวิทย์ (หลวงพ่อชื่น) เจ้าอาวาสวัดภาชีและคณะสงฆ์อำเภอภาชี เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอาวาสวัดตะโกเป็นอนุสาวรีย์ ท่านได้รับพระราชทานยศปาติโก และผ่านการสอบธรรมะของพระอาจารย์ในปี พ.ศ. 2485
และได้อันดับหนึ่ง สอบธรรมะ พ.ศ. 2487 ต่อมาได้ศึกษาธรรมะและคำสอนทางพระพุทธศาสนาต่างๆ โดยขอเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชื่น พระอุปัชฌาย์ซึ่งเป็นลูกศิษย์สายตรงของหลวงพ่อคลาน วัดพระยาต จากนั้นจึงไปเรียนกับหลวงพ่อแช่ม
วัดวังแดงเหนือซึ่งได้ส่งต่อวิชาให้หลวงพ่อรวยไปจนสิ้น หลวงพ่อท่านเป็นครูชั้นแนวหน้าของประเทศ และเมื่อมีพิธีปลุกเสกพระเครื่องต่างๆ ส่วนใหญ่จะอัญเชิญหลวงพ่อรวย ไปปลุกเสกพระประจำตามชื่อมงคลที่กล่าวข้างต้น
คาถาเรียกทรัพย์ของท่านคือ (ตั้งนะโม 3 จบ) พร้อมด้วยท่อนกล่าว สัมพุทธชิตา จะสัจจานิ เกรัตน์สะ พระพุทธชิตา สัพพะโส คุณะวิภา สัมปัจโต นะรุตตะโม มหาลาภัง สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม
5 คาถาอาจารย์ดังคาถาเสริมทรัพย์ตื่นนอนก่อนนอนต้องสวดอาจารย์องค์ที่4 หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2418 ตามรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ตำบลบ้านบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายสอาดและนางอิ่ม สุทวงศ์ ต่อมา พ.ศ. 2439 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่พัทสีมา วัดบางนมโก
โดยมีหลวงพ่อซัน วัดปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ชอย วัดบ้านปาน เป็นพระภิกษุกรรมกร พระอาจารย์อุ้ม วัดสุทธโพธิ์ เป็นอนุสาวรีย์ ได้รับฉายาจากพระอุปัชฌาย์ว่าโสนันโท ต่อมาได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อซัน
จึงเดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร และวัดเจ้าเชษฐ์ พระนครศรีอยุธยา เพื่อศึกษาการแพทย์แผนโบราณจากวัดสังเวช และศึกษาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย และพระอาจารย์นง อินทสุวรรณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดคลอง วัดมาดาน. ทำพระเครื่องจากเจดีย์ขาว ได้เรียนรู้วิธีการปลุกเสกและเป่ายันต์เกราะเพชรจากอาจารย์จางสวรรคโลก รับพระคาถาพระโพธิสัตว์จากครูผึ้ง นครศรีธรรมราช
จึงเสด็จมาที่วัดบางนมโค และได้รับพระราชทานยศ พระครูวิหารกิจ กิจวัตรประจำวันของท่านคือหลังจากท่านจันทหาญปาล คุณมาทั้งวันเพื่อช่วยชาวบ้านและทำน้ำมนต์รักษาคนป่วย รวมทั้งผู้ที่รักษาด้วยไสยเวท หลวงพ่อปาน โสนันโท สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2481
ตามรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร พระอัฏฐารามาธิบดินทรรวมอายุ 63 ปี ปลุกเสก 42 ปี เหลือเพียงมรดกล้ำค่า เช่น เครื่องปั้นดินเผา ยันต์เกราะเพชร ยันต์ประเภทต่างๆ และคาถาพระโพธิสัตว์ประทานให้ลูกศิษย์ของท่าน ผู้สืบทอดวัดบางนมโคจากท่านคือหลวงพ่อเล็ก เกศโร เจ้าอาวาสองค์ที่ 4 วัดบางนมโก
คาถาเรียกทรัพย์ของท่านคือ (ตั้งนะโม 3 จบ) พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ (ว่า 1 จบ) วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มาณีมามะ พุทธัสสะ สะวาโหมฯ หลังจากสวดเสร็จก็อธิฐานก่อนนอน
5 คาถาอาจารย์ดังคาถาเสริมทรัพย์ตื่นนอนก่อนนอนต้องสวดอาจารย์องค์ที่5 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ก่อนพราหมณ์จะเกิด พระมารดาฝันว่าพรหมเห็นเป็นสีเหลืองทองเหมือนพระพุทธรูปที่ลอยอยู่บนฟ้า ทั่วกายเป็นเพชรวิจิตร เข้าทางซุ้มทิศเหนือ มานั่งตักแม่กอดแล้วหายเข้าไปในร่าง เมื่อบังเกิดใหม่ หลวงพ่อเล็ก เกศโร
ซึ่งเป็นอาบอกว่าเด็กคนนี้มาจากพรหม จึงได้พระราชทานนามว่า “พรหม” และต่อมา บรรดาผู้ทำสำมะโนได้นำพระองค์ไปเปลี่ยนชื่อเป็น “สังเวียน” ยายกับชาวบ้านเรียกมันว่า “เล็ก” ในขณะที่แม่และพี่น้องเรียกมันว่า “ปอกลาง” 2466 อายุ 7 ขวบ
เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลวัดบางนมโก อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนจบชั้น ป.3 2474 อายุ 15 ปี อาศัยอยู่กับยายในบ้านวัดไร่ไร่ตลิ่งชัน อ.ธนบุรี เรียนแพทย์แผนโบราณ 2476 อายุ 17 ปี ช่วยรัฐบาลปราบปรามการลุกฮือของบวรเดช พ.ศ. 2478 อายุ 19 ปี สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ (ปัจจุบันคือ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า)
(ตั้ง นะโม 3 จบ )นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค) อีกคาถา พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน ) มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย) มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า) และสัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
บทความหวยอื่น>>> 4 คาถาป้องกันภัย
ดูหนังออนไลน์ที่นี่>>> หนังออนไลน์